วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

นันโทปนันทนาคราช


นันโทปนันทนาคราช
 นอกจากนั้น ในนันโทปนันทสูตร   ยังได้แสดงภพอันเป็นทิยพย์ของนันโทปนันทนาคราชไว้ว่า
คราวหนึ่ง   ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี  ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วจึงทูลนิมนต์พระพุทธองค์พร้อมทั้งภิกษุ   ๕๐๐  รูปฉันภัตตาหาร  ใกล้รุ่งวันนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูสัตว์โลก พญานาคนันโทปนันทะปรากฏในพระญาณ    พระพุทธองค์ได้ทรงเห็นอุปนิสัยแห่งสรณคมน์ของพญานาคราชผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ    พระพุทธองค์เรียกพระอานนท์มาตรัสบอกว่า    พระองค์จะเสด็จจาริกไปยังเทวโลกให้ภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูปตามเสด็จด้วย ในวันนั้นเอง  เหล่านาคบริษัททั้งหลายได้ตระเตรียมสถานที่สำหรับดื่มสุราเพื่อนันโทปนันทนาคราช  กางกั้นด้วยเศวตฉัตรทิพย์ นพรัตนบัลลังก์ทิพย์ ห้อมล้อมด้วยนักฟ้อน  ๓  พวกและเหล่านาคบริษัทมากมาย    พญานันโทปนันทนาคราชนั่งมองดูอาหารที่เขาจัดวางไว้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำให้นาคราชเห็นว่าพระองค์เสด็จข้ามวิมานของนาคราชบ่ายพระพักตร์ไปยังดาวดึงส์เทวโลก โดยมีหมู่ภิกษุ  ๕๐๐   ตามเสด็จ
นันโทปนันทนาคราชเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุ  ๕๐๐  ก็พาลโกรธว่าพวกสมณะหัวโล้นเหล่านี้ ข้ามหัวตนไปมาโปรยขี้ตีนลงบนหัวของตนไม่เกรงอกเกรงใจ     จึงขึ้นไปยังเชิงเขาสิเนรุ เอาขนดวงรอบเขาสิเนรุ  ๗  รอบแผ่พังพานปิดภพดาวดึงส์ไว้ ท่านพระรัฏฐปาลได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า  เมื่อก่อนยืนอยู่ก็สามารถมองเห็นภพดาวดึงส์ ตลอดจนธงบนยอดเวชยันตปราสารทเหตุไบัดนี้จึงไม่เห็น

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสบอกว่านาคราชชื่อว่านันโทปนันทะโกรธพวกเธอจึงเอาขนดหางวงรอบเขาสิเนรุ  ๗  รอบ  แผ่พังพานปิดบังภพดาวดึงส์ ไว้  แม้ท่านรัฏฐปาละ ท่านพระภัททิยะ ท่านพระราหุล และภิกษุแม้ทั้งหมดขอทรมานนาคราช พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ไม่ทรงอนุญาต  ในที่สุดพระมหาโมคคัลลานะเถระ  กราบทูลขอทรมานนาคราชนั้น          พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงอนุญาตพระเถระนิรมิตกายเป็นรูปพญานาคราชใหญ่  เอาขนดหางวงรอบนันโทปนันทนาคราช  ๑๔  รอบ   วางพังพานของตนลงบนยอดพังพานของ       นันโทปนันทนาคราชแล้วกดเข้ากับเขาสิเนรุ  นาคราชบังหวนควันขึ้น   
พระเถระกล่าวว่า    มิใช่จะมีแต่ควันในร่างกายของท่านเท่านั้ แม้เราเองก็มีควันเช่นกันจึงบังหวนควันขึ้นบ้าง ควันของนาคราชไม่สามารถทำอันตรายแก่พระเถระได้   แต่ควันของพระเถระกลับทำอันตรายแก่พญานาคราช  นาคราชจึงพ่นไฟออกไปด้วยความกราดเกรี้ยว  พระเถระกล่าวว่า  ไม่ใช่จะมีแต่ไฟในร่างกายของท่านเท่านั้น แม้เราก็มีไฟเช่นกัน   จึงพ่นไฟออกไปบ้าง ไฟของนาคราชไม่สามารถทำอันตรายแก่พระเถระได้  แต่ไฟของพระเถระกลับทำอันตรายแก่นาคราช นาคราชคิดว่า พระองค์นี้กดหัวเราเข้ากับเขา  จึงบังหวนควันและพ่นไฟพร้อมกับถามว่า ท่านเป็นใคร พระเถระตอบว่า เราโมคคัลลานะ  นาคราชจึงตระโกนออกไปด้วยความโกรธว่า เป็นพระทำไมไม่อยู่ส่วนพระ
พระเถระจึงเปลี่ยนร่างเข้าไปทางช่องหูขวาออกทางช่องหูซ้าย  แล้วเข้าทางช่องหูซ้ายออกทางช่องหูขวา   เข้าทางช่องจมูกขวา    ออกทางช่องจมูกซ้าย    เข้าทางช่องจมูกซ้ายแล้วออกทางช่องจมูกขวาของนาคราช พอนาคราชอ้าปากเท่านั้นพระเถระก็พุ่งเข้าไปทางปากแล้วเดินจงกรมอยู่ภายในท้อง
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเตือนพระเถระว่า  โมคคัลลานะเธอจงตั้งสติให้ดี   อย่าได้ประมาท นาคราชมีฤทธิ์มาก     พระเถระกราบทูลว่า    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ   ข้าพระองค์เจริญอิทธิบาท  ๔  ดีแล้ว    กระทำให้มากแล้ว  สามารถทำให้เป็นเหมือนยานได้  กระทำให้เป็นดุจวัตถุที่ตั้ง ตั้งมั่น  สั่งสมและปรารภไว้ดีแล้ว  
อย่าว่าแต่นันโทปนันทะเลย    ต่อให้พญานาคราชเช่นกับนันโทปนันทะสักร้อย   สักพัน สักแสน ข้าพระองค์ก็สามารถทรมานได้ ส่วนพญานาคราชคิดว่า    ตอนพระเถระเข้าไปเราไม่ทันเห็น    ในเวลาออกมาจักใส่เขี้ยวเคี้ยวกินเสียเลย   เมื่อคิดแล้วจึงแสร้งกล่าวว่า    ขอท่านจงกลับออกมาเถิด อย่าเดินไป ๆ มา ๆ ในท้องทำข้าพเจ้าให้ลำบากเลย   พระเถระได้ออกจากท้องไปยืนข้างนอก   นาคราชเห็นว่านี้คือเขาละ      จึงพ่นลมทางจมูก    พระเถระเข้าจตุตถฌาน                  ลมนาคราชไม่สามารถทำให้ไหวได้แม้แต่ขุมขนของพระเถระ  ที่จริงภิกษุทั้งหลายสามารถทำปาฏิหาริย์ได้ตามที่พระโมคคัลลานะทำมาตั้งแต่ต้น     แต่พอถึงตรงนี้    ไม่มีใครสามารถตั้งตัวและเข้าสมาบัติได้ทัน   เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะแพ้แก่นาคราช  เพราะเหตุนั้น  
 พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงไม่ทรงอนุญาตให้ภิกษุอื่นทรมานนาคราช  แต่อนุญาตพระโมคคัลลานะ   เพราะฤทธิ์ของพระโมคคัลลานะเท่านั้นจะสามารถกำหนดได้   นาคราชคิดว่า   ลมจมูกของเราไม่สามารถทำแม้ขุมขนของพระองค์นี้ให้ไหวได้  พระองค์นี้มีฤทธิ์มาก แล้วจึงรีบหนีไป   พระเถระได้แปลงกายนิรมิตเป็นพญาครุฑไล่ติดตามพญานาคราชไป   นาคราชจึงละอัตภาพนาคกลายเป็นมาณพน้อยกล่าวว่า ท่านผู้เจริญ   กระผมขอถึงท่านเป็นสรณะ  แล้วกราบลงที่เท้า      พระเถระ พระเถระกล่าวว่า  นันทะ  พระศาสดาเสด็จมาแล้ว  ท่านจงมา    พวกเราจะไป   พระเถระทรมานนาคราชจนสิ้นพยศแล้วจึงกลับไปเฝ้าพระพุทธองค์     นาคราชถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วกราบทูลว่า      ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ          ข้าพระองค์ขอถึงพระองค์เป็นสรณะ     พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า    ท่านจงเป็นสุขเถิดนาคราช   หมู่ภิกษุห้อมล้อม                   ได้เสด็จไปยังนิเวศน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
 ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีทูลถามว่า   ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ   เหตุไรพระองค์จึงเสด็จมาสาย     พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า     โมคคัลลานะและนันโทปนันทะได้ทำสงครามกัน    ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีทูลว่า   ก็ใครแพ้    ใครชนะ   พระเจ้าข้า    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า   โมคคัลลานะชนะ    ส่วนนันทะเป็นผู้แพ้   อนาถบิณฑิกเศรษฐีทูลว่า    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงรับภัตตาหารของข้าพระองค์ตามลำดับแห่งเดียวตลอด ๗ วัน   ข้าพระองค์จักกระทำสักการะแก่พระเถระ  ๗   วันแล้วได้กระทำมหาสักการะแก่ภิกษุ  ๕๐๐   มีพระพุทธเจ้า เป็นประมุขตลอด ๗ วัน
            พญานันโทปนันทะ เป็นพญานาค เจ้านครบาดาลในหลุ่มแม่น้ำแห่งหนึ่ง มีพลพรรคมาก เป็นหนึ่งในสัตว์ในตำนานอ้างอิงของพระพุทธศาสนาตนหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น