นันโทปนันทนาคราช
นอกจากนั้น ในนันโทปนันทสูตร
ยังได้แสดงภพอันเป็นทิยพย์ของนันโทปนันทนาคราชไว้ว่า
คราวหนึ่ง ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี
ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วจึงทูลนิมนต์พระพุทธองค์พร้อมทั้งภิกษุ ๕๐๐
รูปฉันภัตตาหาร ใกล้รุ่งวันนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูสัตว์โลก
พญานาคนันโทปนันทะปรากฏในพระญาณ
พระพุทธองค์ได้ทรงเห็นอุปนิสัยแห่งสรณคมน์ของพญานาคราชผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ พระพุทธองค์เรียกพระอานนท์มาตรัสบอกว่า พระองค์จะเสด็จจาริกไปยังเทวโลกให้ภิกษุทั้ง
๕๐๐ รูปตามเสด็จด้วย ในวันนั้นเอง
เหล่านาคบริษัททั้งหลายได้ตระเตรียมสถานที่สำหรับดื่มสุราเพื่อนันโทปนันทนาคราช กางกั้นด้วยเศวตฉัตรทิพย์ นพรัตนบัลลังก์ทิพย์
ห้อมล้อมด้วยนักฟ้อน ๓ พวกและเหล่านาคบริษัทมากมาย
พญานันโทปนันทนาคราชนั่งมองดูอาหารที่เขาจัดวางไว้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำให้นาคราชเห็นว่าพระองค์เสด็จข้ามวิมานของนาคราชบ่ายพระพักตร์ไปยังดาวดึงส์เทวโลก
โดยมีหมู่ภิกษุ ๕๐๐ ตามเสด็จ
นันโทปนันทนาคราชเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐
ก็พาลโกรธว่าพวกสมณะหัวโล้นเหล่านี้
ข้ามหัวตนไปมาโปรยขี้ตีนลงบนหัวของตนไม่เกรงอกเกรงใจ จึงขึ้นไปยังเชิงเขาสิเนรุ
เอาขนดวงรอบเขาสิเนรุ ๗ รอบแผ่พังพานปิดภพดาวดึงส์ไว้
ท่านพระรัฏฐปาลได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
เมื่อก่อนยืนอยู่ก็สามารถมองเห็นภพดาวดึงส์
ตลอดจนธงบนยอดเวชยันตปราสารทเหตุไบัดนี้จึงไม่เห็น
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสบอกว่านาคราชชื่อว่านันโทปนันทะโกรธพวกเธอจึงเอาขนดหางวงรอบเขาสิเนรุ ๗
รอบ แผ่พังพานปิดบังภพดาวดึงส์
ไว้ แม้ท่านรัฏฐปาละ ท่านพระภัททิยะ
ท่านพระราหุล และภิกษุแม้ทั้งหมดขอทรมานนาคราช
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ไม่ทรงอนุญาต
ในที่สุดพระมหาโมคคัลลานะเถระ
กราบทูลขอทรมานนาคราชนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงอนุญาตพระเถระนิรมิตกายเป็นรูปพญานาคราชใหญ่ เอาขนดหางวงรอบนันโทปนันทนาคราช ๑๔ รอบ วางพังพานของตนลงบนยอดพังพานของ
นันโทปนันทนาคราชแล้วกดเข้ากับเขาสิเนรุ
นาคราชบังหวนควันขึ้น
พระเถระกล่าวว่า มิใช่จะมีแต่ควันในร่างกายของท่านเท่านั้
แม้เราเองก็มีควันเช่นกันจึงบังหวนควันขึ้นบ้าง ควันของนาคราชไม่สามารถทำอันตรายแก่พระเถระได้ แต่ควันของพระเถระกลับทำอันตรายแก่พญานาคราช นาคราชจึงพ่นไฟออกไปด้วยความกราดเกรี้ยว พระเถระกล่าวว่า ไม่ใช่จะมีแต่ไฟในร่างกายของท่านเท่านั้น
แม้เราก็มีไฟเช่นกัน จึงพ่นไฟออกไปบ้าง
ไฟของนาคราชไม่สามารถทำอันตรายแก่พระเถระได้
แต่ไฟของพระเถระกลับทำอันตรายแก่นาคราช นาคราชคิดว่า พระองค์นี้กดหัวเราเข้ากับเขา จึงบังหวนควันและพ่นไฟพร้อมกับถามว่า
ท่านเป็นใคร พระเถระตอบว่า เราโมคคัลลานะ
นาคราชจึงตระโกนออกไปด้วยความโกรธว่า เป็นพระทำไมไม่อยู่ส่วนพระ
พระเถระจึงเปลี่ยนร่างเข้าไปทางช่องหูขวาออกทางช่องหูซ้าย แล้วเข้าทางช่องหูซ้ายออกทางช่องหูขวา เข้าทางช่องจมูกขวา ออกทางช่องจมูกซ้าย
เข้าทางช่องจมูกซ้ายแล้วออกทางช่องจมูกขวาของนาคราช พอนาคราชอ้าปากเท่านั้นพระเถระก็พุ่งเข้าไปทางปากแล้วเดินจงกรมอยู่ภายในท้อง
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเตือนพระเถระว่า โมคคัลลานะเธอจงตั้งสติให้ดี อย่าได้ประมาท นาคราชมีฤทธิ์มาก พระเถระกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญอิทธิบาท ๔
ดีแล้ว กระทำให้มากแล้ว สามารถทำให้เป็นเหมือนยานได้ กระทำให้เป็นดุจวัตถุที่ตั้ง ตั้งมั่น สั่งสมและปรารภไว้ดีแล้ว
อย่าว่าแต่นันโทปนันทะเลย
ต่อให้พญานาคราชเช่นกับนันโทปนันทะสักร้อย สักพัน สักแสน ข้าพระองค์ก็สามารถทรมานได้
ส่วนพญานาคราชคิดว่า ตอนพระเถระเข้าไปเราไม่ทันเห็น
ในเวลาออกมาจักใส่เขี้ยวเคี้ยวกินเสียเลย
เมื่อคิดแล้วจึงแสร้งกล่าวว่า
ขอท่านจงกลับออกมาเถิด อย่าเดินไป ๆ มา ๆ ในท้องทำข้าพเจ้าให้ลำบากเลย พระเถระได้ออกจากท้องไปยืนข้างนอก นาคราชเห็นว่านี้คือเขาละ จึงพ่นลมทางจมูก พระเถระเข้าจตุตถฌาน ลมนาคราชไม่สามารถทำให้ไหวได้แม้แต่ขุมขนของพระเถระ ที่จริงภิกษุทั้งหลายสามารถทำปาฏิหาริย์ได้ตามที่พระโมคคัลลานะทำมาตั้งแต่ต้น แต่พอถึงตรงนี้
ไม่มีใครสามารถตั้งตัวและเข้าสมาบัติได้ทัน เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะแพ้แก่นาคราช เพราะเหตุนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงไม่ทรงอนุญาตให้ภิกษุอื่นทรมานนาคราช แต่อนุญาตพระโมคคัลลานะ เพราะฤทธิ์ของพระโมคคัลลานะเท่านั้นจะสามารถกำหนดได้ นาคราชคิดว่า
ลมจมูกของเราไม่สามารถทำแม้ขุมขนของพระองค์นี้ให้ไหวได้ พระองค์นี้มีฤทธิ์มาก แล้วจึงรีบหนีไป
พระเถระได้แปลงกายนิรมิตเป็นพญาครุฑไล่ติดตามพญานาคราชไป นาคราชจึงละอัตภาพนาคกลายเป็นมาณพน้อยกล่าวว่า
ท่านผู้เจริญ กระผมขอถึงท่านเป็นสรณะ แล้วกราบลงที่เท้า พระเถระ พระเถระกล่าวว่า นันทะ
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ท่านจงมา พวกเราจะไป
พระเถระทรมานนาคราชจนสิ้นพยศแล้วจึงกลับไปเฝ้าพระพุทธองค์ นาคราชถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ขอถึงพระองค์เป็นสรณะ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ท่านจงเป็นสุขเถิดนาคราช หมู่ภิกษุห้อมล้อม ได้เสด็จไปยังนิเวศน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เหตุไรพระองค์จึงเสด็จมาสาย พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
โมคคัลลานะและนันโทปนันทะได้ทำสงครามกัน
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีทูลว่า ก็ใครแพ้ ใครชนะ
พระเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
โมคคัลลานะชนะ
ส่วนนันทะเป็นผู้แพ้
อนาถบิณฑิกเศรษฐีทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงรับภัตตาหารของข้าพระองค์ตามลำดับแห่งเดียวตลอด
๗ วัน ข้าพระองค์จักกระทำสักการะแก่พระเถระ
๗ วันแล้วได้กระทำมหาสักการะแก่ภิกษุ ๕๐๐
มีพระพุทธเจ้า เป็นประมุขตลอด ๗ วัน
พญานันโทปนันทะ
เป็นพญานาค เจ้านครบาดาลในหลุ่มแม่น้ำแห่งหนึ่ง มีพลพรรคมาก
เป็นหนึ่งในสัตว์ในตำนานอ้างอิงของพระพุทธศาสนาตนหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น